วันอังคารที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556


เสาร์-อาทิตย์ เป็นวันหยุดที่หลายคนมีกิจกรรมต่างๆ ทำ แทนการนั่งท่องตำราในชั้นเรียน แต่แน่ใจแล้วหรือว่าสิ่งที่ทำนั้นเกิดประโยชน์สมกับเป็นวันอันแสนอิสระเสรี หรือคิดเพียงว่าเป็นวันว่างที่ฉันมีสิทธิ์ทำอะไรตามใจตัวเอง ...ใครจะทำไม!
         
         โถ.....คงไม่มีใครกล้าว่า หรือปฎิเสธหรอกนะว่า วันหยุดใครๆ ก็ต้องการความเป็นส่วนตัวกันทั้งนั้น แต่ถ้าเราได้ใช้วันหยุดอย่างมีประโยชน์และรู้คุณค่าของเวลา วันสบายๆ อันปลอดจากภาระหน้าที่ประจำอาจมีความหมายขึ้นอีกเยอะเชียว แล้วอย่างนี้จะมัวแต่เซ็งอยู่ทำไมว่า 'วันหยุดไม่รู้จะทำอะไร' ให้เป็นชิ้นเป็นอัน

         ก่อนอื่นเราลองสำรวจพฤติกรรมตัวเองดูสิว่า ที่บ่นว่าเบื่อๆ นั้น เราใช้เวลาในวันหยุดไปกับเรื่องไร้ประโยชน์อย่างนี้หรือเปล่า...........จากนั้นก็ปรับเปลี่ยนความเคยชินเสียใหม่ เริ่มจากเปลี่ยนความคิดที่ว่า 'ไม่รู้จะทำอะไรในวันหยุด' เป็น 'เบื่อที่จะทำเรื่องไร้สาระในวันหยุด'

- ไปตามพวก เพื่อนเฮไหน เราเฮนั่น (บางแห่งไปแล้วไม่ได้สนุกเลย)         :  เป็นตัวของตัวเองสิ ลองทำอะไรโดยไม่ตามก้นเพื่อนดูบ้าง ไปเรียนพิเศษ คอมพิวเตอร์ ดนตรี ศิลปะ ฝึกงานฝีมือ หรือแม้แต่หาความรู้ด้านกีฬาที่เราสนใจ (อย่าเรียนเพราะเพื่อนชวน แต่จงเรียนเพราะสมัครใจ) แล้วเราจะพบว่า ชีวิตคล่องตัวขึ้นอีกเยอะเลย และมันส์กว่ายกโขยงทำตามกันเป็นไหนๆ

- จับกลุ่มนินทาคนอื่น เพียงรู้สึกว่าจะได้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม โดยไม่รู้ว่าเมื่อเดินออกจากวงสนทนาเมื่อไหร่ เมื่อนั้นเราจะตกเป็นเหยื่อขี้ปากรายต่อไปทันที         :  ให้คิดเสียว่า คนทุกคนมีโอกาสถูกกล่าวร้ายป้ายสีเท่าเทียมกัน ขอเพียงเราอย่าหลวมตัวเป็นหนึ่งที่ร่วมแจมกับขบวนการชมรมนินทาชาวบ้าน สู้เอาเวลาพูดถึงเรื่องคนอื่น มาสำรวจตัวเองแล้วปรับปรุงแก้ไข ให้ชีวิตเราดีขึ้น เวิร์คกว่ามั้ย

- คิดไรไม่ออกก็เข้าร้านเน็ต เล่นเกม ตะลุยห่ำหันรบกันสนั่นจอ หรือไม่ก็เร่ขายขนมจีบไปทั่วห้องสนทนา ตั้งแต่เช้าจนเย็น (จนลืมนึกไปว่าตัวเองเป็นคนที่ต้องกินอาหารไม่ใช่อิ่มด้วยไฟฟ้า) เสร็จแล้วต้องมาเจอพ่อแม่บ่นเรื่องค่าขนมที่หมดไปกับค่าเช่าคอมฯ         :  เลิกเหอะ เรื่องเล่นเกมไร้สาระ แล้วเข้าร่วมกิจกรรมในชมรมต่างๆ ของโรงเรียน เพื่อฝึกการทำงานร่วมกับผู้อื่น สร้างประโยชน์แก่สังคม โรงเรียน และเพื่อนๆ ในชมรม ดูดีกว่านั่งขลุกเสียสายตาอยู่หน้าจออีกนะ

- เดินห้างหวังพบรักแท้ (โดยคิดว่ากำลังเล่นละครฉากหาเนื้อคู่) แต่กลับเจอจิ๊กโก๋แซวหรือไม่ก็โดนหาเรื่อง (เปลี่ยนจากละครแนวโรแมนติกเป็นบู๊ล้างผลาญ)         :  ชวนเพื่อนๆ มาติวหนังสือที่บ้านหรือที่โรงเรียนดูเข้าท่ากว่า คนดีๆ เหมาะสมกับตำแหน่งเนื้อคู่นั้น น่าจะสนใจเรื่องเรียนมากกว่าเที่ยวเดินเรื่อยเปื่อยตามหาคนรักอย่างไร้สมอง

- ชอบออกไปสร้างเสน่ห์ตามสถานเริงรมย์ยามราตรีใน คืนวันหยุดสุดสัปดาห์ ทั้งๆ ที่มีเพียงบัตรประจำตัวนักเรียน แต่เวลาอยู่ในห้องเรียนนั่งหาวหวอดๆ ไร้ชีวิตชีวา         :  หางานอดิเรกทำ ตามความสนใจ ไม่ว่าจะเป็นการประดิษประดอยของตกแต่งบ้าน หรือแม้แต่ฝึกซ่อมข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้าน ตามกำลัง ความสามารถ (เรื่องแบบนี้โชว์กึ๋นให้เต็มที่) เรื่องเที่ยวเตร่กลางคืนนะ รอให้เรียนจบทำงานทำการแล้วคอยเที่ยวก็ได้

- โชว์ความกล้า อวดสาว เป็นสิงห์นักบิดประจำซอย โดยไม่รู้ว่ามีเพื่อนมีเขานั่งซ้อนท้ายไปทุกครั้งที่ซิ่ง         :  หากมีความสามารถพิเศษด้านหนึ่งด้านใดจริงๆ จังๆ จนเก็บไว้กับตัวไม่ได้ เช่น ถนัดเล่นดนตรี รักวาดรูป ชอบเขียนหนังสือ หรือแม้แต่ชอบซิ่งรถ ฯลฯ เมื่อมีเวทีเปิดโอกาสให้แสดงฝีมือ ก็อย่ารีรอ ลงสมัครเข้าประกวดเพื่อหาประสบการณ์ชีวิต ได้ทั้งชื่อเสียงและเงินรางวัลอีกต่างหาก

- ขลุกอยู่บ้านเพื่อนเพื่อนอน นอน และนอน เนื่องจากอยู่บ้านหลับไม่สนิทเพราะมีคลื่นเสียงพ่อแม่รบกวน (ทั้งที่เสียงปลุกนั้นเป็นคลื่นแห่งความหวังดี กลัวว่าลูกหลังจะขึ้นขน)         :  ถ้าไม่รู้จะทำอะไรจริงๆ แค่หยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน หรือพลิกๆ ดูภาพ (ไม่จำเป็นต้องเป็นตำราเรียนก็ได้) ก็ยังดีกว่านอนเฉยๆ เพื่อช่วยเปิดโลกทัศน์ให้กว้างขึ้น

           จะเห็นได้ว่า จริงๆ แล้ววันหยุดนั้นมีกิจกรรมสร้างสรรค์ให้เราทำเยอะแยะ อยู่ที่ว่าเราอยากทำมันอย่างตั้งใจสักแค่ไหน เมื่อรู้อย่างนี้แล้วยังบ่นว่าเบื่อ....วันหยุดไม่มีอะไรทำ เห็นที่เราจะเป็นโรคไม่กระตือรือร้นเสียมากกว่า

0 ความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น